บทเรียนจาก Langley: การบริหารปฏิบัติการไล่ล่าบินลาเดน (ตอนที่ 2) การปรับโครงสร้างทีมเพื่อบรรลุเป้าหมายทางยุทธศาสตร์
Osama bin Laden's
hideout (Image: WIKI)
https://www.express.co.uk/news/world/1121266/osama-bin-laden-escape-plot-revealed-cia-flee-pakistan-september-11-911-spt
โครงสร้างขององค์กรและห่วงโซ่สายการรายงานควรสะท้อนลำดับความสำคัญเร่งด่วน
ภารกิจการค้นหาตัวบินลาเดนในสายตาคนภายนอกมีความสำคัญเร่งด่วนสูงสุดสำหรับประธานาธิบดีสหรัฐฯและผู้อำนวยการ
CIA แต่ทั้งสอง(Leon E. Panetta และ Jeremy
Bash)[1]
ไม่เคยได้รับรายงานประจำที่ปรับปรุงให้ทันสมัย และไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดใน CIA
ดำเนินการปรับปรุงข่าวสารและข้อมูลการปฏิบัติการ กล่าวโดยสรุปผู้อำนวยการ
CIA รับทราบข้อมูลอย่างจำกัดเกี่ยวกับบินลาเดนมีเพียงการพบปะรับทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สืบสวนเป็นระยะเท่านั้น
ในธันวาคม 2009 สถานการณ์เริ่มเลวร้ายลงเมื่อเกิดเหตุระเบิดพลีชีพสังหารเจ้าหน้าที่
CIA จำนวน 7 คนในฐานทัพทางภาคตะวันออกของอัฟกานิสถาน
เจ้าหน้าที่ดังกล่าวถูกลวงไปพบ “ผู้ให้ข่าว” ที่อ้างว่าสามารถเข้าถึงบุคคลวงในของบินลาเดน
แต่กลับกลายเป็นสายลับสองหน้าซึ่งจุดชนวนระเบิดพลีชีพในเวลาต่อมา
เหตุระเบิดครั้งนั้นทำให้สหรัฐฯเพิ่มกำลังตามล่าบินลาเดนจากเดิมเป็นสองเท่า
ระหว่างการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ
CIA ที่ Langley ทั้งสองได้สอบถามที่ประชุมว่า
“ใครรับผิดชอบการตามล่าบินลาเดน?” ทุกคนในห้องประชุมยกมือขึ้นโดยคิดว่าเป็นคำตอบที่ทั้งสองต้องการทราบ
แต่ทั้งสองกลับเห็นว่า การที่ทุกคนคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของภารกิจนั้นเป็นปัญหาใหญ่
เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงซึ่งปฏิบัติภารกิจบินลาเดนตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาเข้านอนรับผิดชอบโดยตรงต่อผู้อำนวยการ
CIA ทั้งสองจึงแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการคนหนึ่งซึ่งมีความรู้
น่าเชื่อถือ เคยปฏิบัติงานในสนามและดูแลภารกิจต่อต้านข่าวกรองในพื้นที่แนวชายแดนอัฟกานิสถาน
- ปากีสถาน ทำหน้าที่ผลักดันทีมและคอยย้ำเตือนฝ่ายอำนวยการถึงความสำคัญเร่งด่วนสูงสุดของภารกิจนี้
โดยตั้งชื่อว่า “Gary” ทำหน้าที่รับผิดชอบบรรยายสรุปต่อผู้อำนวยการ
CIA ทุกบ่ายวันอังคาร แม้ไม่มีข่าวสารอะไรใหม่ก็ตาม
“Gary”และผู้ช่วยได้สร้างทีมงานและรื้อฟื้นเบาะแสทุกชนิดของบินลาเดน
อาทิ ครอบครัว เครือข่ายและเพื่อนฝูง การปฏิบัติงานใช้ความพยายามอย่างมากแต่ให้ผลลัพธ์เล็กน้อย
เวลาผ่านไปหลายเดือน “Gary”
เริ่มไม่มีข่าวสารในการบรรยายสรุปทุกบ่ายวันอังคาร สร้างความหนักใจอย่างมากแต่เป็นแรงขับเคลื่อนให้
“Gary” และทีมงานขุดคุ้ยทุกเบาะแสที่เป็นไปได้ลึกมากขึ้น
ภารกิจไล่ล่าบินลาเดนกลายเป็นเรื่องส่วนบุคคลสำหรับ “Gary”
และทีมงานทั้งหมด
ในช่วงปลายสิงหาคม 2010 “Gary” บรรยายสรุปด้วยรายงานข่าวชิ้นใหม่
ความพยายามรื้อฟื้นเบาะแสใหม่ช่วยชี้นำเจ้าหน้าที่ CIA ไปยังพี่น้องสองคนซึ่งทำหน้าที่
“นำสาร” ให้กับบินลาเดนในช่วงทศวรรษก่อนหน้า CIA ได้พิสูจน์ทราบตำแหน่งที่อยู่ของพี่น้องสองคนในปากีสถาน
และติดตามบุคคลทั้งสองไปยังบ้านพักตากอากาศหลังหนึ่งตั้งอยู่ในย่านชานเมือง Abbottabad
สุดถนนเป็นทางตัน ซึ่ง “Gary” เรียกบ้านพักดังกล่าวว่า
“ป้อมปราการ” ล้อมรอบด้วยกำแพงด้านหน้าสูง 12 ฟุต ด้านหลังสูง
18 ฟุตและกำแพงหน้าระเบียงสูง 7 ฟุต
บ้านหลังนี้ไม่ติดตั้งบริการอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์ ผู้พักอาศัยบางคนไม่เคยออกจากบ้านพัก
ข่าวสารชิ้นนี้เป็นความคืบหน้าสำคัญ ซึ่ง “Gary” บัญชาการทำงานเต็มเวลา
ด้วยความเด็ดเดี่ยวและมุ่งมั่น ในที่สุดก็พบเบาะแสที่น่าติดตาม (ยังมีต่อ)
[1] สรุปบทความเรื่อง The Former Head
of the CIA on Managing the Hunt for Bin Laden เขียนโดย Leon
E. Panetta อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง (Central
Intelligence Agency-CIA) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
สหรัฐฯ ผู้เขียนหนังสือ “Worthy Fights: A Memoir of Leadership in War and
Peace” (Penguin Press, 2014) และ Jeremy Bash หัวหน้าฝ่ายอำนวยการของผู้อำนวยการ CIA และรัฐมนตรีกลาโหม
ตีพิมพ์ในวารสาร Harvard Business Review (MAY 02, 2016)
https://hbr.org/2016/05/leadership-lessons-from-the-bin-laden-manhunt
Leave a Comment