สหรัฐกับภัยคุกคามในบ้านเกิด (homeland)
ที่มาภาพ: https://www.usnews.com/news/national-news/articles/2021-03-17/domestic-violent-extremism-poses-elevated-threat-in-2021-intelligence-report
“Don’t go to war with your own national security establishment,” “It’s a war you won’t win.” DAR ADAL, ‘Homeland,’ Season 6, Episode 10: The Facts vs. What People Want to Believe
สำนักอำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ (ODNI) สหรัฐฯ เผยแพร่รายงานประมาณการข่าวกรอง (ไม่มีชั้นความลับ) ฉบับล่าสุดระบุว่า กลุ่มหัวรุนแรงที่มีแรงจูงใจทางเชื้อชาติและชาติพันธุ์และกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง (militia violent extremists/MVE) เป็นภัยคุกคามสำคัญที่สุดในบ้านเกิด (homeland) โดยให้รายละเอียดของแนวคิดหัวรุนแรงสุดโต่งภายในประเทศ (domestic violent extremism/DVE) รูปแบบต่าง ๆ ทั้งนี้ ในปี 2021 กลุ่มดังกล่าวทวีความเป็นภัยคุกคามและมีความหลากหลายมากกว่าในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยส่วนหนึ่งเป็นการผสมผสานของอุดมการณ์ที่หลากหลาย[1]
รายงาน ODNI ให้คำจำกัดความกลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่งในประเทศ (DVEs) หมายถึง “ตัวแสดงในสหรัฐฯที่กระทำการหรือดำเนินกิจกรรมคุกคามชีวิตมนุษย์ด้วยการละเมิดกฎหมายอาญาสหรัฐฯ/มลรัฐ โดยเจตนาข่มขู่หรือบีบบังคับประชาชน (พลเรือน) สร้างอิทธิพลเหนือนโยบายรัฐบาล ข่มขู่หรือบีบบังคับหรือสร้างผลกระทบต่อการดำเนินการของรัฐบาลโดยการทำลายล้าง ลอบสังหารหรือลักพาตัว ตามคำนิยามว่าด้วยการก่อการร้ายในประเทศที่กำหนดในประมวลกฎหมาย 18 U.S. Code 2331 (5)”
แม้ข้อความดังกล่าวไม่สำคัญเท่าคำนิยามทางกฎหมายเกี่ยวกับการก่อการร้าย แต่เน้นย้ำองค์ประกอบร่วมหลายประการภายในสหรัฐฯและในสนธิสัญญาและข้อตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ปัญหาต่าง ๆ ที่ระบุไว้ในรายงานสะท้อนถึงประเด็นที่ Christopher Wray ผู้อำนวยการ FBI ให้การต่อคณะกรรมาธิการตุลาการวุฒิสภาในช่วงต้นมีนาคม 2021
รายงานนี้มีส่วนสำคัญในการจัดหมวดหมู่ภัยคุกคามประเภทต่าง ๆ การโจมตีของกลุ่มหัวรุนแรงเมื่อไม่นานมานี้แสดงให้เห็นว่า การกระทำการรุนแรงของบุคคลเกิดจากแรงผลักดันและอุดมการณ์ที่หลากหลาย ทั้งนี้ “DVE” หมายถึงหมวดหมู่ที่ครอบคลุมกลุ่มหัวรุนแรงทุกประเภทในสหรัฐฯ ประกอบด้วยกลุ่มหัวรุนแรงที่มีแรงจูงใจทางเชื้อชาติและชาติพันธุ์ (RMVE) กลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์/สิ่งแวดล้อม กลุ่มหัวรุนแรงเกี่ยวกับการทำแท้ง (ปกป้องสิทธิทารกหรือสนับสนุนสิทธิสตรีให้เลือกว่าจะดำเนินหรือยุติการตั้งครรภ์) กลุ่มต่อต้านรัฐบาล/อำนาจรัฐและหมวดหมู่ที่ถูกตีตราว่าเป็น “ภัยคุกคามจากการก่อการร้ายภายในอื่น ๆ ทั้งหมด”
กลุ่มต่อต้านรัฐบาล/อำนาจรัฐประกอบด้วยกลุ่มย่อยหลายกลุ่ม รวมทั้งกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง กลุ่มอนาธิปไตยและกลุ่มพลเมืองอธิปไตย มีปัจจัยหลายอย่างทำให้ความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับ DVE ในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปี 2021 รวมทั้งข้อมูลที่ผิด (misinformation) เกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในพฤศจิกายน 2020 และผลกระทบของการก่อเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯเมื่อ 6 มกราคม 2021
แม้ไม่ได้ระบุชื่อ QAnon อย่างเฉพาะเจาะจง แต่รายงานดังกล่าวได้อ้างอิงเกี่ยวกับการสมคบคิดและกล่าวถึง QAnon และสมัครพรรคพวก ทั้งนี้ การสมคบคิดและข้อมูลที่ผิด (misinformation) เป็นตัวคูณทำให้ความรุนแรงสุดโต่งในรูปแบบต่าง ๆ ขยายตัวเพิ่มขึ้น
ในปี 2021 ภัยคุกคามจากแนวคิดรุนแรงสุดโต่งมีความหลากหลายมากกว่าในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา นอกจากความท้าทายอย่างยาวนานของกลุ่มญิฮาดซาลาฟี เช่น อัล-ไคดาและกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) รวมทั้งเครือข่ายที่เกี่ยวข้องและผู้สนับสนุน สหรัฐฯกำลังต่อสู้กับสิ่งที่อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของ FBI อธิบายว่าเป็นการรวมอุดมการณ์ในลักษณะ “สลัดบาร์” พูดง่าย ๆ ก็คือ บุคคลหรือกลุ่มบุคคลยึดมั่นในอุดมการณ์ที่ทับซ้อนมาบรรจบกันหรือในบางกรณีก็ขัดแย้งกัน แต่ก็มีระบบความเชื่อแบบหัวรุนแรงร่วมกัน
เส้นแบ่งระหว่างความสุดโต่งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาเลือนลางมากขึ้น เนื่องจากย่าน (spectrum) อุดมการณ์มีลักษณะเป็นงานเลี้ยงแบบบริการตนเอง (buffet) ของพวกหัวรุนแรง การบรรจบกันของกลุ่มคนขาวผู้สูงส่งและสิ่งแวดล้อมเป็นผลพลอยได้ทางอุดมการณ์ แถลงการณ์ของผู้ก่อการร้ายที่รับผิดชอบการสังหารหมู่ที่ไครสต์เชิร์ชและการโจมตีที่เอลพาโซในปี 2019 ต่างก็อ้างอิงถึงอุดมการณ์นี้
รายงานระบุว่า RMVE และ MVE เป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดในบ้านเกิดของสหรัฐฯ ขณะเดียวกันยอมรับว่า RMVE รวมถึงกลุ่มคนขาวผู้สูงส่งและ neo-Nazis มีแนวโน้มที่จะพยายามโจมตีพลเรือนและสร้างความเสียหายที่มีผู้บาดเจ็บล้มตายมากที่สุด
กลุ่มคนขาวผู้สูงส่งถูกประเมินว่ามีความเชื่อมโยงกันมากที่สุดทั่วโลก โดยมีการเชื่อมต่อกับบุคคลหรือกลุ่มคนที่มีความคิดคล้ายคลึงกันในต่างประเทศ ซึ่งจะเพิ่มระดับของภัยคุกคาม หากข้อจำกัดในการเดินทางถูกยกเลิกมีแนวโน้มว่าบุคคลที่ใช้เวลาสื่อสารกันในปีที่ผ่านมาจะเดินทางไปพบปะและสร้างเครือข่ายด้วยตนเอง
กลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงเป็นหนึ่งในตัวแสดงที่อันตรายที่สุด เนื่องจากกลุ่มนี้ได้รับการฝึกทางทหารและมีประสบการณ์ทางการสู้รบ มีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธและตั้งใจใช้ความรุนแรง กลุ่มนี้หมายรวมถึงกลุ่มต่าง ๆ เช่น The Oath Keepers และ Three Percenters ซึ่งมีแนวโน้มที่จะโจมตีเป้าหมายหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาล
สำหรับกลุ่มหัวรุนแรงภายในประเทศยังคงสื่อสารโดยใช้เทคโนโลยีรูปแบบต่าง ๆ ตั้งแต่แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์จนถึงเว็บไซต์ชายขอบรวมทั้งแอปพลิเคชั่นสนทนาเข้ารหัส ผู้นำกลุ่มคนเหล่านี้ตระหนักว่า การรับมือ DVE เป็นเรื่องเกินกำลังของรัฐบาลไบเดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มหัวรุนแรงที่ต่อต้านรัฐบาล/ต่อต้านอำนาจรัฐและการการแพร่ข้อมูลที่ผิดย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการโกงการเลือกตั้งปรานาธิบดี
สุดท้าย มีความเป็นไปได้ที่กลุ่ม DVE อาจขยายตัวเพิ่มขึ้นและการตรวจจับยังคงเป็นความท้าทายสำหรับการบังคับใช้กฎหมาย ผู้ปฏิบัติการแบบฉายเดี่ยวสามารถปลุกระดมอย่างอิสระและระดมพลแบบลับ ๆ และเข้าถึงอาวุธปืนได้อย่างง่ายดาย การเคลื่อนไหวรูปแบบนี้ตรงกับการก่อเหตุหลายกรณี รวมทั้งเหตุกราดยิงในโบสถ์ชาร์ลสตันในปี 2015 และการโจมตีโบสถ์ยิวในพิตต์สเบิร์กในปี 2018
การขยายเครือข่ายของกลุ่ม DVE ในสหรัฐฯและการมีส่วนร่วมกับบุคคลและกลุ่มที่บุคคลมีแนวคิดคล้ายคลึงกันในต่างประเทศ ในลักษณะเครือข่าย “ข้ามชาติ” อาจทำให้ต้องนิยามคำว่า “DVE” ใหม่
[1] ODNI RELEASES REPORT DETAILING DOMESTIC VIOLENT EXTREMISM THREAT INTELBRIEF Friday, March 19, 2021 Available at: https://mailchi.mp/thesoufancenter/odni-releases-report-detailing-domestic-violent-extremism-threat?e=c4a0dc064a
Leave a Comment