NFT กับการก่อการร้ายและการฟอกเงิน
Top NFT Marketplaces To Buy/Sell NFTs 2022 – 2023 ที่มาภาพ: https://www.finextra.com/blogposting/21893/top-nft-marketplaces-to-buysell-nfts-2022---2023
หน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลสหรัฐฯเริ่มกังวลเกี่ยวกับการใช้ NFT[1] เพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรและฟอกเงินของกลุ่มอาชญากรรมและพวกหัวรุนแรง ทั้งนี้ NFT ถูกสร้างขึ้น (minted) โดยกลุ่ม QAnon ซึ่งสนับสนุนทฤษฎีสมคบคิดพร้อมกับเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน (disinformation) โดยลักษณะความเป็นงานศิลปและสินค้าโภคภัณฑ์ดิจิทัลทำให้ NFT ได้รับความนิยมแพร่หลายในหมู่ประชาชน
ล่าสุดเมื่อกันยายน 2022 ผู้สนับสนุนรัฐอิสลาม (IS) ได้จัดสร้าง NFT เชิดชูการโจมตีก่อการร้ายของกลุ่มรัฐอิสลามโคราซาน (IS-K) ในอัฟกานิสถาน ขณะที่มีแนวโน้มว่า NFT จะยังคงได้รับความสนใจจากกลุ่มก่อการร้ายและผู้เห็นอกเห็นใจต่อไป เพราะสามารถหลีกเลี่ยงการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการกำกับดูแลของภาครัฐ[2]
ความนิยมซื้อขาย NFT ขยายตัวอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่ปี 2021 เนื่องจากการยืนยันธุรกรรมสินทรัพย์ประเภทนี้ไม่ต้องผ่านตัวกลาง (decentralization) และยากต่อควบคุมประกอบกับความหลงใหลของบรรดานักสะสมที่แสวงหางานศิลปะที่ไม่เหมือนใคร
การแลกเปลี่ยน NFT ส่วนใหญ่มักดำเนินไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก็มีความกังวลว่ากลุ่มอาชญากรรมอาจแสวงประโยชน์หรือใช้เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Opensea และ Rarible ซึ่งถูกใช้ในการจัดสร้าง NFT โดยรายงานฉบับกุมภาพันธ์ 2022 ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯแสดงความกังวลว่า NFT อาจเป็นแหล่งฟอกเงิน
ความกังวลดังกล่าวเป็นผลจากการที่ QAnon ได้จัดสร้าง NFT เผยแพร่เหตุการณ์จลาจลบุกรัฐสภาสหรัฐฯ (6 มกราคม 2021) บนแพลตฟอร์ม Opensea ก่อให้เกิดความท้าทายและการป้องกันมิให้มีการแสวงประโยชน์จาก NFT ในอนาคต เนื่องจากงานศิลปะดิจิทัลได้รับความนิยมมากขึ้น มูลค่าตลาดของ NFT ในห้วงกันยายน 2022 อยู่ระหว่าง 50 - 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อุปสงค์ NFT ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ยากต่อการกำกับดูแล
เมื่อต้นกันยายน 2022 Wall Street Journal รายงานว่า IS เป็นกลุ่มก่อการร้าย “กลุ่มแรก” ที่สร้าง NFT บนแพลตฟอร์ม Rarible[3] และสร้างความหนักใจแก่หน่วยงานกำกับดูแลอย่างมาก เพราะ NFT ที่สร้างขึ้นโดยกลุ่มผู้เห็นอกเห็นใจ IS มีเจตนาสะสมเงินทุนและโฆษณาชวนเชื่อรวมทั้งยกย่องการโจมตีของ IS-K ในอัฟกานิสถาน
การลบเนื้อหา (content) ของ IS ใน NFT และเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมอื่น ๆ เป็นความท้าทายที่ยากลำบาก เนื่องจาก NFT สามารถซื้อขายแบบส่วนตัวและการแจ้งหรือรายงานข้อความที่เป็นปัญหาทำได้ยาก นอกจากนี้ NFT ยังถูกจัดเก็บในระบบแบ่งปันแฟ้มข้อมูลที่ซับซ้อน (complex file sharing system) บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
ช่วงจุดสูงสุด IS ใช้สื่อสังคมอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเข้าถึงผู้ชมทั่วโลกด้วยวิดีโอภาพเคลื่อนไหวและทวีตข้อความรุนแรงรวมทั้งโพสต์ Facebook ที่น่าสยดสยอง ดึงดูดเยาวชนจำนวนมากที่ไม่พอใจ (disaffected) สังคมไปยังซีเรียและอิรัก นักรบต่างชาติชาวตะวันตกหลายคนหลงกลอุบายภาพยนต์แนวอาชญากรรม (pulp fiction) ของ IS ที่เผยแพร่ออนไลน์
NFT สามารถสร้างภาพเหมือนและอาจดึงดูดบุคคลที่ไม่เชื่อหลักศีลธรรมและพวกหัวรุนแรงทางศาสนาไปสู่ต้นเหตุของ IS อย่างไรก็ดี แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน NFT ขาดการควบคุมเนื้อหาและเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังก็ไม่เอื้อต่อการลบเนื้อหา เช่นเดียวกับที่บริษัทสื่อสังคมรายใหญ่ที่หันมาต่อต้าน IS ในภายหลัง
ก่อนหน้านี้ในกรกฎาคม 2022 กลุ่ม Russian Imperial Movement (RIM) ซึ่งสหรัฐฯจัดให้เป็นกลุ่มก่อการร้ายได้สร้าง NFT บน OpenSea ในเดือนเดียวกัน Kharon บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลตั้งข้อสังเกตในรายงานว่าผู้สนับสนุน RIM ได้จัดสร้าง NFT หลายชุดเพื่อสนับสนุนการทำสงครามของรัสเซียในยูเครน อนึ่ง RIM เป็นกลุ่มแรกที่สร้าง NFT เพื่อหลีกเลี่ยมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
กลุ่มก่อการร้ายจะยังคงใช้ประโยชน์จากเครื่องมือออนไลน์เพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่ง การทดลองสร้าง NFTของ IS และ RIM เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับการใช้สกุลเงินดิจิทัลในการระดมทุน การปกปิดตัวตน เข้าถึงผู้ชมและการสามารถที่จะปฏิเสธโดยพอรับฟังได้ (plausible deniability) ของ NFT ดึงดูดตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐ (non-state actor) ที่นิยมความรุนแรงได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
NFT ก็เหมือนกลไกทางการเงินออนไลน์อื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับผู้อำนวยความสะดวกและผู้สนับสนุนด้านการเงินในโลกจริง (กายภาพ) ท้าทายการพิสูจน์ทราบ จับกุม บังคับใช้กฎหมายและดำเนินคดีกับผู้ที่ได้ประโยชน์จากการหลอกขายขาย NFT ที่ผิดกฎหมาย
การใช้กลไกการเงินออนไลน์ดังกล่าวอาจทำให้การตอบสนองแบบพหุภาคีเหนียวแน่นและซับซ้อนยิ่งขึ้นในภูมิทัศน์ภัยคุกคามที่กำลังพัฒนา ซึ่งแพร่กระจายในท้องถิ่นมากขึ้น ไม่น่าแปลกใจที่ผู้ก่อการร้ายทดลองสร้าง NFT เมื่อไม่นานมานี้ ความเคลื่อนไหวของ IS และ RIM จึงน่าจะเป็นลางบอกเหตุของสิ่งต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
[1] สินค้าโภคภัณฑ์ดิจิทัลประเภทหนึ่ง มักจะเป็นงานศิลปะที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินดิจิทัลหรือรูปแบบการรับรองทางดิจิทัล เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัล ความหมายตรงตัวคือ “เหรียญที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ (Non-Fungible Token)” ทำงานอยู่บน Blockchain และกลุ่มนักลงทุนกำลังให้ความสนใจ https://www.thairath.co.th/lifestyle/tech/2099661
[2] NON-FUNGIBLE TOKENS (NFTS) ARE NOW FUNDING TERRORISTS (NFTS) INTELBRIEF September 16, 2022 Available at: https://mailchi.mp/thesoufancenter/non-fungible-tokens-nfts-are-now-funding-terrorists-nfts?e=c4a0dc064a
[3] Islamic State Turns to NFTs to Spread Terror Message By Ian Talley The Wall Street Journal Updated Sept. 6, 2022 5:39 pm ET Available at: https://www.wsj.com/articles/islamic-state-turns-to-nfts-to-spread-terror-message-11662292800
Leave a Comment