จุดเปลี่ยนสมการสงครามตะวันออกกลาง

 

ที่มาภาพ:https://www.reuters.com/world/middle-east/hezbollah-strikes-israel-gaza-war-anniversary-fears-grow-over-middle-east-2024-10-07/

ฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ซึ่งสังหารฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำสูงสุดของฮิซบอลเลาะห์สะท้อนเจตนาบังคับให้ฮิซบอลเลาะห์หยุดยิงถล่มภาคเหนือของอิสราเอลและถอนกำลังออกจากชายแดน แม้จะถูกทำลายล้างอย่างหนัก แต่ฮิซบอลเลาะห์มีแนวโน้มตอบโต้ด้วยกำลังที่สามารถสร้างความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญต่อปฏิบัติการภาคพื้นดินของอิสราเอลที่อาจเกิดขึ้นหลังปฏิบัติการทางอากาศ

สหรัฐฯและฝรั่งเศสรวมทั้งมหาอำนาจในภูมิภาคไร้อำนาจบังคับให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลยอมรับการหยุดยิงชั่วคราวกับฮิซบอลเลาะห์หรือฮามาส ขณะที่อิหร่านมิได้ดำเนินการใด ๆ เพื่อปกป้องหรือขัดขวางไม่ให้อิสราเอลยกระดับการต่อต้านฮิซบอลเลาะห์ แต่เสนอการเจรจาใหม่กับฝ่ายตะวันตกในประเด็นสำคัญที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

ฮิซบอลเลาะห์ยืนยันเมื่อ 29 กันยายน 2024 ว่าการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในย่านดาฮิเยห์ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์บัญชาการของฮิซบอลเลาะห์ทางใต้ของกรุงเบรุตได้สังหารฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ เลขาธิการฮิซบอลเลาะห์ โดยอิสราเอลใช้ระเบิดบังเกอร์บัสเตอร์ขนาด 2,000 ปอนด์ที่สหรัฐฯจัดหาให้และอ้างว่าเพื่อป้องกันตัวเอง

การโจมตีดังกล่าวยังทำให้อาลี คาร์กี ผู้บัญชาการแนวรบด้านใต้และผู้บัญชาการของฮิซบอลเลาะห์อีกอย่างน้อย 8 คนเสียชีวิต นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (Qods Force หรือ IRGC-QF) หลายนายเสียชีวิตรวมทั้งพลตรีอับบาส นิลฟูรูซาน รองผู้บัญชาการ IRGC ซึ่งถูกระบุตัวตนและลงโทษโดยกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ[1]

การดำเนินความพยายามอย่างเป็นระบบของอิสราเอลในการรื้อถอนฮิซบอลเลาะห์ เริ่มต้นขึ้นหนึ่งสัปดาห์ก่อนการลอบสังหารนาสรัลเลาะห์ โดยเครื่องรับส่งวิทยุที่สมาชิกของฮิซบอลเลาะห์ใช้สื่อสารหลายพันเครื่องเกิดระเบิดพร้อมกันทำให้สมาชิกและผู้ปฏิบัติงานของฮิซบอลเลาะห์ 1,500 คนบาดเจ็บ

หน่วยข่าวกรองของอิสราเอลมุ่งทำลายโครงสร้างการสั่งการการและควบคุม (command-and-control) ของฮิซบอลเลาะห์ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการสื่อสารระหว่างสมาชิก การพึ่งพาดาวเทียมจารกรรม ระบบอากาศยานไร้คนขับ ข่าวกรองทางบุคคลและความสามารถเจาะระบบ (hacking) ของอิสราเอลมีความสำคัญต่อการกำจัดผู้นำระดับสูงของฮิซบอลเลาะห์ซึ่งตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากในขณะนี้

การโจมตีเพื่อสังหารนาสรัลเลาะห์ ถือเป็นการยกระดับความรุนแรงของอิสราเอลต่อโครงสร้างบัญชาการและโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของฮิซบอลเลาะห์ เริ่มจากการโจมตีเมื่อปลายกรกฎาคม 2024 ที่สังหารฟูอัด ชุคร์ ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของฮิซบอลเลาะห์และผู้นำคนสำคัญในและรอบกรุงเบรุตเมื่อ 23 กันยายน 2024 โดยสังหารผู้คนไปกว่า 700 รายตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขของเลบานอน

 ในทางกลับกันฮิซบอลเลาะห์ได้ยกระดับการโจมตีใส่อิสราเอลด้วยขีปนาวุธและจรวด โดยยิงลึกเข้าไปในประเทศมากขึ้นอย่างน้อยหนึ่งครั้งที่กรุงเทลอาวีฟ ซึ่งเป็นจุดไกลที่สุดที่ฮิซบอลเลาะห์เคยโจมตีตั้งแต่ก่อตั้งกลุ่มขึ้นเมื่อต้นทศวรรษ 1980

บางคนเรียกเหตุการณ์นี้ว่าเป็นจุดสิ้นสุดของฮิซบอลเลาะห์ แต่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการนองเลือดอีกครั้งของความขัดแย้งระยะยาวระหว่างกลุ่มติดอาวุธกับอิสราเอล แม้การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ (tactical maneuvers) ของอิสราเอลจะมีประสิทธิภาพ แต่ยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่าการโจมตีครั้งนี้จะเชื่อมโยงกับกลยุทธ์ที่กว้างขึ้นหรือไม่

ผู้นำอิสราเอลยอมรับว่า การเด็ดหัวผู้นำจะไม่ทำให้องค์การนี้ออกจากเลบานอนหรือถูกบังคับให้ปลดอาวุธ ฮิซบอลเลาะห์มีลักษณะเป็นกองกำลัง “ต่อต้าน” อิสระที่ปกป้องเลบานอนจากอำนาจของอิสราเอล ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ประเมินว่ากองกำลังติดอาวุธของเลบานอน (LAF) ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะปลดอาวุธหรือยับยั้งปฏิบัติการของฮิซบอลเลาะห์ แม้ถูกอิสราเอลโจมตีก็ตาม

แนวการปฏิบัติเมื่อสูญเสียผู้นำ นาอิม กัสเซ็ม รองหัวหน้าฮิซบอลเลาะห์ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำชั่วคราวโดยอัตโนมัติ การวิเคราะห์ส่วนใหญ่บ่งชี้ว่าฮาชิม ซาฟิอุดดิน หัวหน้าสภาบริหารของฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งมีรายงานว่ารอดชีวิตจากการโจมตีจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งแทนอย่างถาวร

ซาฟิอุดดินเป็นญาติของนาสรัลเลาะห์และเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ IRGC-QF บุตรชายของเขาแต่งงานกับบุตรสาวของกาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการ IRGC-QF ซึ่งถูกสังหารจากการโจมตีของสหรัฐฯ ในมกราคม 2020 (มีรายงานว่ากองทัพอิสราเอลได้สังหารว่าที่ผู้นำคนใหม่ของฮิซบอลเลาะห์)[2]

แม้ฮิซบอลเลาะห์ได้ปรับโครงสร้างผู้นำขึ้นใหม่และยังคงสถานะแข็งแกร่ง แต่ผู้นำอิสราเอลหวังว่าความพยายามกำจัดผู้นำระดับสูงของฮิซบอลเลาะห์รวมถึงคลังจรวดและขีปนาวุธจำนวนมากคงจะบรรลุ “เป้าหมายที่จำกัด” กล่าวคือ ทำให้ฮิซบอลเลาะห์ยุติการโจมตีทางตอนเหนือของอิสราเอลและถอนกำลังออกจากแนวชายแดนอิสราเอล – เลบานอน

อิสราเอลต้องการให้ฮิซบอลเลาะห์ยอมรับว่า การสร้างความความรุนแรงที่ชายแดนอิสราเอลและสงครามในฉนวนกาซาเป็นประเด็นแยกจากกัน ผู้ไกล่เกลี่ยจากสหรัฐฯและฝรั่งเศสรวมทั้งในภูมิภาคต่างพยายามโน้มน้าวให้ฮิซบอลเลาะห์ยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวตั้งแต่ 8 ตุลาคม 2024 เมื่อเกิดการปะทะกันหลังจากที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์เริ่มยิงถล่มอิสราเอลทางตอนเหนือ

ฮิซบอลเลาะห์มุ่งหวังที่จะผูกมัดกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ทางตอนเหนือเพื่อบรรเทาแรงกดดันต่อกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา การปะทะกันดังกล่าวทำให้ชาวอิสราเอล 65,000 คนและชาวเลบานอน 90,000 คนต้องอพยพออกจากเมืองของตน ฮิซบอลเลาะห์ปฏิเสธที่จะปรับเคลื่อนกำลังรบหรือยุติการโจมตีอิสราเอลทางตอนเหนือ จนกว่าสงครามกาซาจะสิ้นสุดลง[3]

นักการทูตพยายามหาข้อตกลงร่วมกัน โดยฮิซบอลเลาะห์ส่งหน่วยรบชั้นนำ Radwan กลับไปประจำการทางเหนือของชายแดนอย่างน้อย 6 ไมล์ การปรับตำแหน่งที่ตั้งเป็นไปตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSCR) ที่ 1701 ซึ่งยุติสงครามอิสราเอล - ฮิซบอลเลาะห์ในปี 2006 และกำหนดว่าฮิซบอลเลาะห์จะไม่ส่งกำลังทหารไปทางใต้ของแม่น้ำลิตานี (ห่างจากชายแดนไปทางเหนือประมาณ 18 ไมล์)

เนื่องจากความพยายามทางการทูต เพื่อคลายความตึงเครียดแนวรบทางตอนเหนือหรือสงครามกาซาพัฒนาไปเป็นภารกิจต่อต้านการก่อความไม่สงบ เนทันยาฮูและผู้สนับสนุนจึงมุ่งเน้นการรักษาชายแดนทางเหนือเพื่อให้ชาวอิสราเอลสามารถกลับคืนถิ่นฐานเดิม

ช่วงกลางกันยายน 2024 นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูและคณะรัฐมนตรีความมั่นคงอิสราเอลส่งสัญญาณว่าจะกดดันฮิซบอลเลาะห์อย่างหนัก โดยขยายเป้าหมายสงครามกาซารวมถึงการส่งชาวอิสราเอลกลับคืนพื้นที่ทางตอนเหนือ คำประกาศพร้อมการกับโจมตีผู้นำและคลังอาวุธฮิซบอลเลาะห์ในเวลาต่อมา แสดงให้เห็นความตั้งใจของอิสราเอลที่จะกดดันฮิซบอลเลาะห์ต่อไปจนกว่าจะยอมรับข้อเรียกร้องของอิสราเอล

ขณะที่ฮิซบุลเลาะห์เริ่มตอบโต้เพื่อแก้แค้นต่อการเสียชีวิตของนัสรัลเลาะห์ นักการทูตสหรัฐและฝรั่งเศสรวมทั้งในภูมิภาครื้อฟื้นความพยายามไกล่เกลี่ยให้หยุดยิงเป็นเวลา 21 วัน โดยแถลงการณ์ร่วมของสหรัฐฯและชาติตะวันตกรวมทั้งอาหรับหลายประเทศ “เรียกร้องให้ทุกฝ่ายรวมทั้งรัฐบาลอิสราเอลและเลบานอนรับรองการหยุดยิงชั่วคราวทันทีตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยธรรม 1701 และยุติข้อพิพาทด้วยวิธีทางการทูต”

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเข้าใจว่าอิสราเอลยอมรับข้อเสนอหยุดยิงแล้ว แต่คำปราศรัยของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูต่อสมัชชาสหประชาชาติสมัยที่ 79 เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนการโจมตีนาสรัลเลาะห์ แสดงให้เห็นว่าเขาจะไม่หยุดการโจมตีจนกว่าภัยคุกคามจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ต่อชุมชนทางตอนเหนือจะยุติลง

เนทันยาฮูประเมินว่ารัฐบาลของตนจะไม่ได้รับผลที่ตามมาอย่างมีนัยสำคัญ ในการยกระดับการต่อสู้กับ    ฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งสะท้อนความไม่ดต็มใจของสหรัฐฯที่จะยับยั้งอิสราเอล แถลงการณ์ของประธานาธิบดีไบเดนต่อการสังหารนัสรัลเลาะห์ระบุว่า สหรัฐฯสนับสนุนสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเองอย่างเต็มที่จากฮิซบอลเลาะห์ ฮามาส ฮูตีและกลุ่มก่อการร้ายอื่น ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน

ประธานาธิบดีไบเดนยืนยันว่า ตนได้สั่งการให้รัฐมนตรีกลาโหมเสริมกำลังป้องกันกองกำลังทหารสหรัฐฯในตะวันออกกลางเพิ่มเติม เพื่อยับยั้งการรุกรานและลดความเสี่ยงของสงครามในภูมิภาคที่อาจขยายตัว เป้าหมายสูงสุดของสหรัฐฯ คือ การลดระดับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั้งในฉนวนกาซาและเลบานอนด้วยวิธีการทางการทูต

การตอบสนองของสหรัฐฯต่อการสังหารนาสรัลเลาะห์และการต่อต้านฮิซบอลเลาะห์เพิ่มขึ้นของอิสราเอล  สะท้อนให้เห็นข้อเท็จจริงที่สหรัฐฯเห็นว่าฮิซบอลเลาะห์เป็นกลุ่มก่อการร้ายที่รับผิดชอบการโจมตีกองกำลังสหรัฐฯและนักการทูตในช่วงต้นทศวรรษ 1980 รวมถึงการก่อการร้ายต่อนักการทูตและนักท่องเที่ยวอิสราเอลในช่วงทศวรรษ 1990

ภาวะไร้อำนาจยับยั้งจากชาติตะวันตกและอาหรับ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญบางคนประเมินว่าในที่สุดอิสราเอลอาจรวมปฏิบัติการทางอากาศเข้ากับปฏิบัติการภาคพื้นดิน เพื่อโจมตีฐานที่มั่นของเฮซบอลเลาะห์ในเลบานอนตอนใต้ เป็นที่น่าสังเกตว่าอิสราเอลเคลื่อนกำลังไปยังชายแดนทางตอนเหนือในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการเปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินหรือไม่ การกระทำดังกล่าวถือเป็นความเสี่ยงและมีแนวโน้มที่จะทำให้อิสราเอลสูญเสียกำลังพลจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนตอนใต้มีตำแหน่งที่ตั้งในการโจมตีทหารราบของ IDF ดีกว่าตอบโต้การโจมตีทางอากาศของอิสราเอล

แม้ไม่สามารถลดระดับความตึงเครียดในฉนวนกาซาและเลบานอน แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและชาติตะวันตกได้พยายามอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 7 ตุลาคม 2023 ในการป้องกันไม่ให้การสู้รบขยายวงไปทั่วทั้งภูมิภาค แต่เป้าหมายดังกล่าวมีความไม่แน่นอนมากขึ้นจากการสังหารนาสรัลเลาะห์ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและในภูมิภาคพยายามหาคำตอบว่าอิหร่านจะตอบสนองอย่างไร

ความสัมพันธ์ทางการเมือง การทหารและอุดมการณ์ของอิหร่านกับฮิซบอลเลาะห์เริ่มขึ้นตั้งแต่ก่อตั้งกลุ่มเมื่อต้นทศวรรษ 1980 มีสัญญาณบ่งชี้ว่าอิหร่านคงจะไม่เข้าร่วมความขัดแย้งโดยตรงเพื่อสนับสนุนฮิซบอลเลาะห์ ผู้นำอิหร่านคาดคำนวณว่า ไม่ว่าอิสราเอลจะสร้างความเสียหายมากเพียงใด แต่ฮิซบอลเลาะห์จะสามารถฟื้นโครงสร้างผู้นำและกองกำลังขึ้นมาใหม่และกลับมาเป็นภัยคุกคามสำคัญต่ออิสราเอลในที่สุด

อิหร่านไม่จำเป็นต้องเสี่ยงทำสงครามอันเลวร้ายกับอิสราเอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้การโจมตีล่าสุดของอิสราเอล อิหร่านยังไม่ได้ตอบโต้การที่อิสราเอลสังหารอิสมาอิล ฮานีเยห์ ผู้นำสูงสุดของฮามาส ในดินแดนอิหร่านเมื่อ 31 กรกฎาคม 2024

ผู้นำสูงสุดอิหร่านยังกล่าวอีกว่าต้องการอยู่วงนอกด้านการทหาร หลังนาสรัลเลาะห์ถูกสังหาร ผู้นำสูงสุดอาลี คาเมเนอี ไม่ได้เรียกร้องให้แก้แค้น แต่ประกาศว่าอิสราเอลจะ “เสียใจกับการกระทำของตน” เขากล่าวเสริมว่า “ชะตากรรมของภูมิภาคนี้จะถูกกำหนดโดยกองกำลังต่อต้านโดยมีฮิซบุลเลาะห์เป็นผู้นำ” รายงานบางฉบับระบุว่าเขาถูกย้ายไปยังสถานที่ปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่าอิสราเอลอาจขยายการโจมตีทางอากาศเข้าไปในอิหร่าน

จุดยืนของผู้นำสูงสุดบ่งชี้ว่า ต้องการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งอย่างเปิดเผยกับผู้นำที่ได้รับการเลือกตั้งรวมถึงประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียน ซึ่งกล่าวสุนทรพจน์ต่อสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อ 25 กันยายน 2024 ว่าอิหร่านต้องการ “มีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในภูมิภาค” และเสนอให้เริ่มการเจรจาฟื้นฟูการปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านพหุภาคีปี 2015 (JCPOA) ของสหรัฐฯ

ดูเหมือนว่าอิหร่านพอใจที่จะปล่อยให้กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ตอบโต้การสังหารนาสรัลเลาะห์ด้วยตัวเอง และบางทีอาจร่วมมือกับกลุ่มฮูตีในเยเมน ซึ่งเพิ่งเริ่มยิงขีปนาวุธที่อิหร่านจัดหามาให้บางส่วนไปยังอิสราเอลเมื่อเร็วๆ นี้[4]


[1] Nilforoushan ถูกลงโทษเนื่องจากมีบทบาทในการปราบปรามการประท้วงในอิหร่านที่กินเวลานานหลายเดือนและการเสียชีวิตของ Mahsa Amini ระหว่างถูกควบคุมตัวเมื่อปี 2022

[2] อิสราเอลยืนยันปลิดชีพว่าที่หัวหน้าคนใหม่ของเฮซบอลลาห์ ตุลาคม 08, 2024 VOA เข้าถึงได้ที่: https://www.voathai.com/a/hezbollah-deputy-chief-says-group-backs-cease-fire-efforts/7814673.html?ltflags=mailer&utm_content=pg_nl&utm_medium=email&utm_source=VOA%20Thai%20eNews&utm_campaign=EMAIL_CAMPAIGN_09.10.2024

[3] Israel and Hezbollah Are Escalating Toward Catastrophe By Dana Stroul Foreign Affairs September 23, 2024 Available at: https://www.foreignaffairs.com/israel/israel-and-hezbollah-are-escalating-toward-catastrophe?utm_medium=newsletters&utm_source=twofa&utm_campaign=Israel%20and%20Hezbollah%20Are%20Escalating%20Toward%20Catastrophe&utm_content=20240927&utm_term=EWZZZ003ZX

[4] WILL NASRALLAH KILLING CHANGE MIDEAST WAR EQUATION? INTELBRIEF Monday, September 30, 2024 Available at: https://mailchi.mp/thesoufancenter/will-nasrallah-killing-change-mideast-war-equation?e=c4a0dc064a

Author Image

About Kim
Kim is a retired civil servant, specializing in intelligence analysis. He loves productivity hacks, minimalist workflows and CSI series.

No comments

Powered by Blogger.